แหลมทาเทอิชิตั้งอยู่ปลายสุดของคาบสมุทรซึรุงะ ตรงกับทางเข้าออกอ่าวซึรุงะ บริเวณโดยรอบมีท่าเรือประมงทาเทอิชิ และจุดนี้เป็นจุดสิ้นสุดของถนนสายเหนือของคาบสมุทร บริเวณด้านในอ่าวก็มองเห็นทะเลอบอุ่น และในบางครั้งก็เงียบสงบมากจนได้ยินเสียงร้องของนกนางนวลหางดำ เส้นทางวิ่งเลียบริมทะเลคาบสมุทรจากบริเวณตัวเมืองเขตซึรุงะไปจนถึงแหลมทาเทอิชิ และจุดที่มองเห็นวิวโจกูหรือมิซึชิมะไกลๆ ได้เช่น จากอุระโซโกะและอิโระงะฮามะ จะเห็นภาพวิวบ้านเรือนเกาะกลุ่มเล็กๆ ปรากฏกระจายทั่วตามแนวชายหาด ซึ่งเหมาะแก่การขับรถเล่นชมวิวอย่างยิ่ง และจากสุดปลายถนนเดินเพียงประมาณ 500 เมตรก็ถึงประภาคารแหลมทาเทอิชิ หากพ้นจากกลุ่มบ้านเรือนไปยังแนวเลียบทะเล และเดินอีกนิดก็จะถึงปลายสุดของคาบสมุทร จะเจอทางปีนขึ้นเขาไปยังประภาคาร และปีนขึ้นให้สุดอีกประมาณ 300 เมตรก็จะพบกับต้นทางทะเลใหญ่แห่งทะเลญี่ปุ่นอยู่เบื้องล่าง และหากวันนั้นอากาศดี ฉากหลังจะเป็นฟ้าสีครามใส พร้อมหอประภาคารสีขาวสว่างจนแสบตารอต้อนรับเลยทีเดียว หลีกหนีความอึกทึกวุ่นวายจากเมืองมาฟังเพียงเสียงต้นไม้สั่นไหวลู่ลม อาจได้เห็นเรือเฟอร์รี่หรือไม่ก็เรือส่งสินค้าที่แล่นไปมาผ่านอ่าวซึรุงะไปไกลก็เป็นได้ ประภาคารแหลมทาเทอิชินี้ เป็นหอขนาดกลาง สร้างด้วยหินสีขาวตั้งอยู่บนแหลมทาเทอิชิ และเป็นประภาคารหินแห่งแรกในสมัยเมจิที่ 14 ที่ออกแบบและดำเนินการก่อสร้างโดยชาวญี่ปุ่นล้วน ถือเป็นประภาคารที่มีประวัติศาสตร์แห่งที่ 2 ของชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น สมัยเมจิที่ 14 ส่องสว่างด้วยแสงจากประภาคารแหลมทาเทอิชิ และในปีถัดมาก็เปิดทางรถไฟ ถือเป็นยุคทองความเจริญแบบก้าวกระโดดของซึรุงะก็ว่าได้ ประวัติความเป็นมาของประภาคารแหลมทาเทอิชินั้น ครั้งหนึ่งเปรียบเสมือนกับทางเข้าหน้าบ้านของฝั่งทะเลญี่ปุ่นเติบโตเคียงคู่มาพร้อมกับท่าเรือซึรุงะอันรุ่งเรืองเลยทีเดียว

ประภาคารที่เจริญมาพร้อมกับท่าเรือซึรุงะ ถือเป็นหนึ่งในต้นแบบสัญลักษณ์ของเมือง
ประภาคารแหลมทาเทอิชิ เป็นหนึ่งในแบบร่างสัญลักษณ์เมืองของเขตซึรุงะ ถือเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างตัวแทนของซึรุงะ